เจาะลึก “ท็อตแนม ฮอตสเปอร์” ประวัติ เกียรติยศ ความหวัง ของไก่เดือยทอง

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ชื่อนี้อาจจะไม่ใช่สโมสรที่แฟนบอลทั่วโลกมองว่า “เกรียงไกร” เหมือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล หรือ เรอัล มาดริด แต่ถ้าคุณเป็นแฟน พรีเมียร์ลีก จริง ๆ คุณจะรู้เลยว่า “ไก่เดือยทอง” คือสโมสรที่ มีเสน่ห์เฉพาะตัว พวกเขามีสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนใคร มีแฟนบอลที่รักทีมอย่างเหนียวแน่น แม้ต้องเจอกับความผิดหวังมานับครั้งไม่ถ้วน

และสิ่งที่ทำให้ “ไก่เดือยทอง” เป็นทีมที่แฟนบอลพูดถึงเสมอ ไม่ใช่เพราะถ้วยรางวัล แต่มันคือ ความหวังและความฝัน ที่แฟนบอลรอวัน “สเปอร์ส” จะกลับมาคว้าแชมป์ใหญ่ได้อีกครั้ง

หากคุณเป็นแฟนบอลที่ชอบฟุตบอลเกมรุก สเปอร์สคือทีมที่คุณควรจับตา และถ้าอยากติดตามข่าวฟุตบอลยุโรปครบทุกมิติ สามารถเข้าไปที่ เว็บไซต์ Ball UEFA เพื่ออัปเดตความเคลื่อนไหวของบอลยุโรปได้ทุกวัน

ประวัติความเป็นมาของสโมสรท็อตแนม ฮอตสเปอร์

ย้อนกลับไปในปี 1882 เมื่อกลุ่มนักเรียนในท้องถิ่น Tottenham ตัดสินใจตั้งทีมฟุตบอลขึ้น พวกเขาอาจไม่เคยคาดคิดเลยว่าสโมสรเล็ก ๆ ที่เริ่มจากสนามดินเปล่า จะเติบโตขึ้นจนเป็นหนึ่งใน ทีมชั้นนำของฟุตบอลอังกฤษ

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ใช้เวลาสร้างตัวตนและความสำเร็จอย่างช้า ๆ ในยุคแรก ๆ พวกเขาไม่ใช่ทีมที่มีเงินถุงเงินถัง แต่กลับอาศัยความมุ่งมั่นและฝีมือของผู้เล่นรุ่นแล้วรุ่นเล่า จนกระทั่งปี 1961 พวกเขากลายเป็นทีมแรกในศตวรรษที่ 20 ที่คว้า ดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งลีกและเอฟเอคัพ ในยุค 80’s ถึง 90’s สเปอร์สกลายเป็นทีมที่แฟนบอลติดตามเพราะสไตล์การเล่นที่ “เอนเตอร์เทน” พวกเขามี Glenn Hoddle, Chris Waddle, Gary Lineker นักเตะพรสวรรค์สูงที่เล่นฟุตบอลสวยงามจนแฟนบอลทั้งอังกฤษชื่นชม

จุดเริ่มต้นของ ไก่เดือดทอง

ถ้าจะพูดถึง “เอกลักษณ์” ของสเปอร์ส มันเริ่มมาตั้งแต่ ตราสโมสร รูปไก่เดือยทองยืนบนลูกบอลที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสื่อถึง Harry Hotspur นักรบในตำนานที่เป็นแรงบันดาลใจของชื่อทีม ความกล้าหาญ ดุดัน และไม่ยอมแพ้คือสิ่งที่สโมสรนี้ยึดถือมาตลอด ซึ่งหากคุณกำลังมองหาลิงก์ ทางเข้ายูฟ่าเบท เพื่อแทงบอลออนไลน์หรือติดตามราคาบอลแบบเรียลไทม์ ลองดูได้ที่ ทางเข้ายูฟ่าเบท เพื่อไม่พลาดความสนุกในทุกแมตช์สำคัญ

เส้นทางไก่เดือดทอง ในลีก อังกฤษ

“สเปอร์ส” ไม่ใช่ทีมที่ได้แชมป์บ่อย แต่กลับเป็นทีมที่สร้าง แมตช์คลาสสิก ให้แฟนบอลจดจำได้เสมอ ตั้งแต่การคว้าเอฟเอคัพในปี 1981 และ 1982 การโค่นอาร์เซนอลในดาร์บี้แมตช์ การคัมแบ็กชนะแมนซิตี้ในแชมเปียนส์ลีกปี 2019 หรือแม้แต่การแพ้แบบ “น่าเจ็บใจ” ที่แฟนบอลยังเอามาล้อกันจนทุกวันนี้

สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ สเปอร์ส ยังขาด DNA ของแชมป์ ในสายตาของหลายคน พวกเขามักไปได้ไม่สุดเมื่อถึงรอบลึก ๆ ของบอลถ้วย แต่สำหรับแฟนบอลตัวจริง พวกเขารู้ว่า “ความหวัง” และ “การเชียร์สเปอร์ส” คือความสุขที่ไม่ได้ขึ้นกับถ้วยแชมป์เสมอไป

รางวัลเกียรติยศของท็อตแนม ฮอตสเปอร์

แม้จะไม่มากเท่าสโมสรอื่น แต่ทุกถ้วยคือความภาคภูมิใจ

• พรีเมียร์ลีก/ดิวิชัน 1: 2 สมัย
• เอฟเอคัพ: 8 สมัย
• อีเอฟแอลคัพ: 4 สมัย
• คัพวินเนอร์สคัพ: 1 สมัย
• ยูฟ่า คัพ: 2 สมัย

สิ่งที่แฟนบอลพูดถึงบ่อยคือ “ปี 2008” เมื่อพวกเขาคว้าอีเอฟแอลคัพ ถือเป็นถ้วยใบล่าสุดของทีมในรอบกว่า 15 ปี และจนถึงตอนนี้ก็ยังรอคอยถ้วยใหม่

กลยุทธ์ และแผนการเล่น

ในฐานะ “เซียนบอล” คนหนึ่ง ผมมองว่าสเปอร์สเป็นทีมที่ “มีแนวทางชัด แต่ขาดความต่อเนื่อง” พวกเขาต้องการเล่นเกมบุก สร้างความบันเทิง เน้นครองบอลและเข้าทำเร็ว แต่ในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา การเปลี่ยนกุนซือบ่อยครั้งทำให้ทีมขาดเสถียรภาพ

ในยุค Ange Postecoglou กลับมาสู่ แนวทาง “บุกแหลก” (all-out attack) อีกครั้ง ฟอร์มช่วงต้นฤดูกาลเป็นที่ฮือฮา แต่คำถามคือ พวกเขาจะรักษามาตรฐานนี้ได้ยาวนานแค่ไหน? เพราะหลายครั้งที่สเปอร์สพังในช่วงปลายฤดูกาล ซน ฮึง-มิน คือนักเตะสำคัญในยุคนี้ เขาไม่ได้แค่เป็นกัปตันทีม แต่ยังเป็น หัวใจในเกมรุก ทั้งการยิง การสร้างสรรค์เกม และแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมทีม

ผลงานในอดีต

แฟนบอลยังพูดถึงแมตช์ในอดีต เช่น “คืนมหัศจรรย์ที่อัมสเตอร์ดัม” ในปี 2019 ที่ Lucas Moura ยิงแฮตทริกพาทีมเข้าชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกแบบสุดดราม่า หรือแมตช์ดาร์บี้ที่ Gareth Bale ยิงประตูชัยเหนืออาร์เซนอล

แต่ก็มีความเจ็บปวด เช่น การแพ้ลิเวอร์พูล 0-2 ในรอบชิง UCL ที่แฟนบอลรู้สึกว่า “ใกล้แล้วแต่ยังไม่ถึง”

ผลงานปัจจุบัน

ในซีซั่นล่าสุด สเปอร์สเริ่มต้นได้ดีเกินคาด แต่การบาดเจ็บของผู้เล่นหลัก เช่น James Maddison, Micky van de Ven ทำให้ทีมแผ่วในช่วงกลางฤดูกาล การขาดความลึกของขุมกำลังยังคงเป็นปัญหา แต่สิ่งที่เห็นได้คือ สปิริตทีม และ ความกระหายในชัยชนะ ไม่หายไป แฟนบอลยังเต็มสนามทุกนัด และการเชียร์ “Come on you Spurs” ยังคงดังไม่แพ้ทีมไหนในพรีเมียร์ลีก

ความหวังต่อไปของท็อตแนม ฮอตสเปอร์

ในฐานะแฟนบอลหรือ “นักรีวิว” ผมมองว่า อนาคตของสเปอร์สขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก:

1. การเสริมทัพที่ตรงจุด ทีมต้องหาตัวแทน Harry Kane แบบจริงจัง
2. ความต่อเนื่องของ Postecoglou กุนซือต้องได้โอกาสสร้างทีมระยะยาว
3. ความทนทานของขุมกำลัง นักเตะตัวหลักต้องไม่บาดเจ็บบ่อยเหมือนปีที่ผ่านมา

ถ้าทำได้ครบ สเปอร์สมีศักยภาพพอจะ ลุ้น Top 4 หรือถ้วยบอลถ้วยในประเทศ แต่ถ้ายังพลาดในจุดเดิม ความหวังอาจกลายเป็น “Spursy”  คำล้อที่แฟนทีมอื่นแซวกันเสมอ

แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยหายไป คือ ความรักและความศรัทธาของแฟนบอลไก่เดือยทอง ที่ยังรอคอยวันฉลองแชมป์ลีกสูงสุดอีกครั้ง หากใครกำลังมองหาทางเข้าสำหรับเดิมพันหรือเชียร์ทีมโปรด พร้อมติดตามราคาบอลล่าสุด สามารถเข้าชมที่ ทางเข้า UFABET เพื่อรับความมันแบบเต็มอรรถรส