กองหลัง ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุด ในโลกในเวลานี้ ลิซานโดร มาร์ติเนซ (Lisandro Martinez) ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน และทักษะการป้องกันที่ยอดเยี่ยม เขามีความสามารถในการตัดเกม และป้องกันอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการเล่นบอลจากแดนหลัง วางบอลยาว ทำให้เขาเป็นผู้เล่นสำคัญในทีมทั้งในระดับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอาร์เจนตินา และในวันนี้ทางเว็บ Balluefa จะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก กองหลังแมนยู พันธุ์ดุคนนี้กันให้มากยิ่งขึ้น
ประวัติ และ ข้อมูลต่าง ๆ ของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ
ลิซานโดร มาร์ติเนซ (Lisandro Martinez) เกิดเมื่อวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 1998 เขาเป็น นักฟุตบอลชาวอาร์เจนตินา ที่ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กให้กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และทีมชาติอาร์เจนตินา เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับสโมสร นิวเวลล์ โอลด์ บอยส์ ในประเทศอาร์เจนตินา ก่อนจะย้ายไปเดเฟนซา อี จัสติเซียในปี 2017 ด้วยสัญญายืมตัว ต่อมาเขาย้ายไปร่วมทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม

ในปี 2019 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ที่ทำให้เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นนักฟุตบอล ที่มีได้รับความสนใจในระดับสากล ในช่วงเวลาที่อยู่กับอาแจ็กซ์ มาร์ติเนซลงเล่นให้ทีมทั้งหมด 120 นัดตลอด 3 ฤดูกาล และพาทีมคว้าแชมป์เอเรดิวิซี 2 สมัย และเคเอ็นวีบี คัพ 1 สมัย นอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอาแจ็กซ์ในฤดูกาล 2021–22
ในระดับทีมชาติ มาร์ติเนซเริ่มต้นด้วยการเป็นผู้เล่นของอาร์เจนตินา ในระดับเยาวชนทั้งอายุต่ำกว่า 20 ปีและต่ำกว่า 23 ปี ก่อนที่จะลงเล่นให้กับทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม 2019 เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกสำคัญของทีมชาติอาร์เจนตินาชุดที่คว้าแชมป์โคปา อเมริกา 2021, รอบชิงชนะเลิศ 2022, ฟุตบอลโลก 2022 และโคปา อเมริกา 2024 ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งใน กองหลัง ที่โดดเด่นที่สุดในวงการฟุตบอลในปัจจุบัน
ประวัติอาชีพการค้าแข้ง ลิซานโดร มาร์ติเนซ Lisandro Martinez
- นิวเวลล์ โอลด์ บอยส์
มาร์ติเนซเริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลกับสโมสรนิวเวลล์ โอลด์ บอยส์ หนึ่งในสโมสรที่มีชื่อเสียง ในลีกอาร์เจนตินา โดยเข้าร่วมอะคาเดมีของสโมสร และได้พัฒนาฝีเท้า จนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่น ที่น่าจับตามองในรุ่นเดียวกัน - เดเฟนซา อี จัสติเซีย
ในปี 2017 มาร์ติเนซย้ายไปร่วมทีมเดเฟนซา อี จัสติเซีย แบบยืมตัว ที่นี่เขาได้พัฒนาทักษะการเล่นของเขา จนกลายเป็นกองหลังที่น่าจับตามอง และในที่สุดสโมสรจึงตัดสินใจซื้อขาด เขามาร่วมทีมอย่างถาวร การเล่นที่โดดเด่นของเขาดึงดูด ความสนใจจากสโมสรใหญ่ในยุโรป - อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
ในปี 2019 มาร์ติเนซย้ายไปเล่นในยุโรปกับ สโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในเนเธอร์แลนด์ ด้วยค่าตัว 7 ล้านยูโร ที่นี่เขากลายเป็นส่วนสำคัญในแนวรับของทีม โดยลงเล่นไปทั้งหมด 120 นัด ตลอด 3 ฤดูกาล ช่วยพาทีมคว้าแชมป์เอเรดิวิซี 2 สมัย และเคเอ็นวีบี คัพ 1 สมัย นอกจากนี้ เขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอาแจ็กซ์ ในฤดูกาล 2021–22 - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผลงานที่โดดเด่นของมาร์ติเนซกับอาแจ็กซ์ ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีมในปี 2022 ด้วยค่าตัว 49 ล้านปอนด์ บวกออปชั่นเสริม 8.5 ล้านปอนด์ โดยทันทีที่เข้าร่วมทีม เขาก็กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในแนวรับของสโมสร การเล่นที่ดุดัน และความสามารถในการอ่านเกมของเขา ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแนวรับที่แข็งแกร่งขึ้นในพรีเมียร์ลีก

ถ้วยรางวัลและความสำเร็จของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ
อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม
- แชมป์เอเรดิวิซี 2 สมัย ในฤดูกาล 2020–21 , 2021–22
- แชมป์เคเอ็นวีบี คัพ ในฤดูกาล 2020–21
- แชมป์โยฮัน ครัฟฟ์ ชิลด์ ในปี 2019
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- แชมป์เอฟเอคัพ ในฤดูกาล 2023–24
- แชมป์อีเอฟแอลคัพ ในฤดูกาล 2022–23
ทีมชาติอาร์เจนตินา
- แชมป์ฟุตบอลบอลโลก ในปี 2022
- แชมป์โคปาอเมริกา ในปี 2021 , 2024
- แชมป์คอนเมโบล–ยูฟ่า คัพ ออฟ แชมเปี้ยนส์ ในปี 2022
รางวัลส่วนตัว
- นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอาแจ็กซ์ (รางวัล Rinus Michels) ในปี 2021–22
- ทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนของเอเรดิวิซี่ ในเดือน เมษายน 2021, กุมภาพันธ์ 2022
ความแตกต่างของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไร้ลิซานโดร มาร์ติเนซ
มาร์ติเนซมีบทบาทสำคัญในแนวรับของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแต่เขาย้ายมาร่วมทีม การมีมาร์ติเนซอยู่ในสนามและไม่มีในสนาม มีผลกระทบต่อทีมอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นลีกที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น และความท้าทาย
- การป้องกันที่มั่นคง เมื่อมาร์ติเนซอยู่ในสนาม แนวรับของแมนยูมีความมั่นคงมากขึ้น ความสามารถของเขาในการอ่านเกม การสกัดบอล และการป้องกันลูกกลางอากาศ ทำให้ทีมสามารถจัดการกับการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ดียิ่งขึ้น มาร์ติเนซยังเป็นกองหลังที่มีความดุดัน และไม่กลัวที่จะเข้าบอลหนัก ซึ่งเป็นสิ่งที่แมนยูต้องการในการป้องกันเกมรุก ของทีมคู่แข่ง
- การสร้างเกมจากแดนหลัง มาร์ติเนซมีทักษะในการจ่ายบอลที่แม่นยำ ซึ่งช่วยให้แมนยูสามารถเริ่มต้นการโจมตีจากแนวหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่เขาสามารถจ่ายบอลสั้นและยาวได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ทีมสร้างเกมรุกได้รวดเร็วขึ้น และเปลี่ยนจากเกมรับเป็นเกมรุกได้อย่างคล่องแคล่ว
- การประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม มาร์ติเนซมีความสามารถในการสื่อสาร และเป็นผู้นำในแนวรับ ซึ่งทำให้เพื่อนร่วมทีมมีความมั่นใจ ทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น การจัดการแนวรับที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้แมนยูเสียประตูน้อยลง เมื่อมีเขาอยู่ในสนาม
- ผลกระทบเมื่อไร้ลิซานโดร มาร์ติเนซ เมื่อแมนยูไม่มีมาร์ติเนซในสนาม ทีมมักประสบปัญหาในการป้องกัน และมีแนวโน้มที่จะเสียประตูมากขึ้น ความสามารถในการสร้างเกมจากแดนหลังก็ลดลง และทีมต้องพึ่งพาผู้เล่นคนอื่นในการทำหน้าที่ป้องกัน ซึ่งอาจไม่สามารถทำได้ในระดับเดียวกับมาร์ติเนซ
โดยรวมแล้ว การมีหรือไม่มีลิซานโดร มาร์ติเนซในทีมมีผลกระทบอย่างชัดเจน ต่อประสิทธิภาพ การเล่นของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเฉพาะในพรีเมียร์ลีกที่ทุกแมตช์มีความสำคัญ และการแข่งขันสูง
ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับนักฟุตบอลระดับโลก ได้ที่เว็บ Balluefa
ความสามารถและความมุ่งมั่นของ Lisandro Martinez ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง และเขายังมีบทบาทสำคัญ ในการช่วยเกมรับให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอาร์เจนตินา ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง และสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับ นักฟุตบอลชั้นแนวหน้า หรือนักฟุตบอลดาวรุ่งที่น่าสนใจ ได้ที่เว็บ Balluefa และยังมีข้อมูลเกี่ยวกับโลกลูกหนังอีกมากมาย สามารถติดตามได้ที่หน้าเว็บไซต์ของเรา