ลูกา มอดริช มิดฟิลด์อัจฉริยะ หนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในโลก

ถ้าพูดถึงกองกลางระดับโลกที่มีทั้งความเฉลียวฉลาด เทคนิคแพรวพราว และหัวใจนักสู้แบบไม่มีถอย ชื่อของ ลูกา มอดริช (Luka Modric) ต้องติดอยู่ในลิสต์แน่นอน! จากเด็กชายร่างผอมที่เติบโตขึ้นมาท่ามกลางสงครามในโครเอเชีย สู่การเป็น เจ้าของบัลลงดอร์ปี 2018 และหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดตลอดกาลของวงการฟุตบอล เส้นทางของเขาเต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ด้วยพรสวรรค์ การทำงานหนัก และจิตใจที่ไม่ยอมแพ้ เขาสามารถก้าวขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าของโลกฟุตบอลได้อย่างสง่างาม

แม้จะไม่ได้มีรูปร่างที่สูงใหญ่หรือพละกำลังที่แข็งแกร่งแบบนักเตะคนอื่น ๆ แต่มอดริชกลับมีมันสมองและวิสัยทัศน์ ที่ทำให้เขากลายเป็นหัวใจสำคัญของทั้งสโมสร เรอัล มาดริด และ ทีมชาติโครเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นการวางบอลสุดแม่นยำ คุมจังหวะเกมได้อย่างชาญฉลาด หรือการเลี้ยงบอลฝ่ากองกลางคู่แข่งอย่างเหนือชั้น ทุกการสัมผัสบอลของเขามักจะเปลี่ยนเกมได้เสมอ

แต่นอกเหนือจากฝีเท้าระดับเวิลด์คลาสแล้ว เรื่องราวชีวิตของมอดริชก็เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ จากเด็กที่ต้องหนีสงครามมาตามล่าความฝัน จนกลายเป็นนักเตะที่คว้าแชมป์ยุโรปมาครองได้หลายสมัย และพาทีมชาติโครเอเชียสร้างประวัติศาสตร์ในฟุตบอลโลก วันนี้ทางเว็บไซต์ บอลยูฟ่า เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ “พ่อมดแดนกลาง” คนนี้ให้ลึกซึ้งกว่าที่เคย พร้อมย้อนดูเส้นทางที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกฟุตบอล!

ประวัตินักบอล ลูกา มอดริช Luka Modric ที่ทุกท่านควรรู้

ลูกา มอดริช หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ลูก้า โมดริช (Luka Modric) เกิดวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1985 เกิดที่เมืองซาดาร์ ประเทศโครเอเชีย ส่วนสูง 5 ฟุต 8 นิ้ว (172 เซนติเมตร) ตำแหน่งกองกลาง ปัจจุบัน (ปี 2025) เล่นให้กับสโมสรฟุตบอล เรอัลมาดริด และ ทีมชาติโครเอเชีย เขาได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล ถึงขั้นได้ขนานนามว่า “พ่อมดแดนกลาง” เลยทีเดียว

เส้นทางของ ลูกา มอดริช ที่ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดตลอดกาล

ถ้าจะพูดถึงมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกฟุตบอลยุคนี้ ลูกา มอดริช (Luka Modric) คงเป็นชื่อแรก ๆ ที่แฟนบอลนึกถึง จากเด็กชายที่เติบโตท่ามกลางสงครามในโครเอเชีย สู่การเป็นหัวใจสำคัญของ เรอัล มาดริด และทีมชาติบ้านเกิด เส้นทางของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยการต่อสู้ ความมุ่งมั่น และความสามารถที่ไม่มีใครปฏิเสธได้

จุดเริ่มต้นจากสงครามสู่เส้นทางลูกหนัง

มอดริชเกิดและเติบโตในเมืองซาดาร์ ประเทศโครเอเชีย ในช่วงเวลาที่สงครามกลางเมืองกำลังเดือดระอุ ชีวิตในวัยเด็กของเขาไม่ได้ง่ายเลย เพราะต้องหนีภัยสงครามและใช้ชีวิตในค่ายผู้ลี้ภัย แต่ท่ามกลางความโหดร้ายของสงคราม ฟุตบอลกลับเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขายิ้มได้

แม้ร่างกายจะผอมบาง และไม่ได้มีพละกำลังมากเหมือนนักเตะคนอื่น ๆ แต่มอดริชมีพรสวรรค์ที่โดดเด่น นั่นคือ ความเข้าใจเกมระดับอัจฉริยะ และเทคนิคที่เหนือชั้น ทำให้เขาถูกสโมสร ดินาโม ซาเกร็บ ดึงตัวเข้าสู่อะคาเดมี และเริ่มสร้างชื่อในวงการฟุตบอล

จากพรีเมียร์ลีกสู่การเป็นหัวใจของ เรอัล มาดริด

หลังจากโชว์ฟอร์มเด่นกับดินาโม ซาเกร็บ ลูกา มอดริช ก็ถูก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คว้าตัวไปเล่นในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในปี 2008 แม้ช่วงแรกจะต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ไม่นานเขาก็กลายเป็นเพลย์เมกเกอร์คนสำคัญของทีม ด้วยสไตล์การเล่นที่เฉลียวฉลาด และการควบคุมจังหวะเกมได้อย่างยอดเยี่ยม

จนกระทั่งในปี 2012 เรอัล มาดริด เห็นศักยภาพของมอดริชและดึงตัวเขามาร่วมทัพ แม้ช่วงแรกจะมีเสียงวิจารณ์ว่าเขาอาจไม่เหมาะกับลาลีกา แต่เพียงไม่นาน มอดริชก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือ “สมอง” ของทีมอย่างแท้จริง

ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายบอลสุดแม่นยำ การพาบอลขึ้นหน้าได้อย่างลื่นไหล และความสามารถในการอ่านเกมที่ไร้ที่ติ ทำให้เขากลายเป็นกำลังหลักของ “ราชันชุดขาว” และช่วยพาทีมคว้าแชมป์มากมาย ทั้ง ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ลาลีกา สเปน และโกปาเดลเรย์

บัลลงดอร์ และการพาทีมชาติโครเอเชียสร้างประวัติศาสตร์

หากพูดถึงจุดสูงสุดในอาชีพของ ลูกา มอดริช แน่นอนว่าต้องเป็นปี 2018 ที่เขาก้าวขึ้นมาคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ซึ่งเป็นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของโลกที่ปกติแล้วจะตกเป็นของ ลิโอเนล เมสซี หรือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ปีนั้นไม่มีใครคู่ควรกับรางวัลนี้มากไปกว่ามิดฟิลด์โครแอตคนนี้

ในปีเดียวกัน เขายังพา ทีมชาติโครเอเชีย สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทะลุเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 แม้สุดท้ายจะแพ้ฝรั่งเศส แต่เขาก็ได้รับรางวัล Golden Ball หรือ “นักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์” ไปครอง เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเขาคือหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดของยุคนี้

ลูกา มอดริช ในวัย 39 กับความเป็นอมตะในวงการฟุตบอล

ปัจจุบันแม้จะอายุ 39 ปีแล้ว แต่มอดริชก็ยังเป็นฟันเฟืองสำคัญของ เรอัล มาดริด เขายังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในทุกเกม ไม่ว่าจะเป็นในลาลีกา หรือแม้แต่ในรายการอย่าง โกปาเดลเรย์ และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นอกจากฝีเท้าที่ไม่มีตกแล้ว เขายังเป็น ผู้นำทั้งในและนอกสนาม คอยเป็นแบบอย่างให้กับนักเตะรุ่นใหม่ ๆ ในทีม ไม่ว่าจะเป็น เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ หรือ เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า ซึ่งต่างยกให้มอดริชเป็นไอดอล

** หากคุณเป็นแฟนบอลที่อยากติดตามผลงานของ ลูก้า โมดริช และ เรอัล มาดริด หรือแม้แต่ลุ้นผลบอลของทีมชาติโครเอเชีย เว็บยูฟ่า คือตัวเลือกที่เหมาะสำหรับคุณ ที่นี่คุณสามารถติดตามข่าวสารฟุตบอล วิเคราะห์บอล และลุ้นเดิมพันผ่าน ทางเข้ายูฟ่าเบท ที่ใช้งานง่ายและปลอดภัย

ทำไม ลูกา มอดริช ถึงเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดตลอดกาล?

1. วิสัยทัศน์และการจ่ายบอลอัจฉริยะ

มิดฟิลด์ระดับตำนานต้องมีสายตาที่เฉียบคม และมอดริชก็คือ เจ้าแห่งการอ่านเกม เขามองเห็นพื้นที่ว่างก่อนใคร และสามารถจ่ายบอลได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นบอลสั้น บอลยาว หรือ คิลเลอร์พาสที่เปลี่ยนเกมได้ในพริบตา

ลองนึกภาพดู… คุณเป็นกองหน้า กำลังวิ่งทะลุแนวรับ แล้วทันใดนั้น มอดริชก็วางบอลมาให้คุณแบบพอดิบพอดีโดยที่คุณแทบไม่ต้องแตะเพิ่ม! นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างจากกองกลางทั่วไป

2. เทคนิคสุดเนียนตา ครองบอลดี เลี้ยงบอลเหนือชั้น

หลายคนอาจคิดว่ามอดริชเป็นกองกลางสายจ่ายบอลเพียว ๆ แต่ความจริงแล้วเขามี ทักษะการเลี้ยงบอลที่เหนือชั้น และการครองบอลสุดเหนียวแน่น การเลี้ยงบอลของเขานุ่มนวลจนเหมือนบอลติดเท้า และเมื่อถึงเวลาต้องพาบอลไปข้างหน้า เขาสามารถเลี้ยงฝ่ากองกลางคู่แข่งได้แบบเนียนกริบ

นอกจากนี้ การหมุนตัว 360 องศา หรือที่เรียกว่า “Modric Turn” เป็นหนึ่งในเครื่องหมายการค้าของเขา หลายครั้งที่เขาหลุดจากการกดดันของคู่แข่งด้วยท่าหมุนตัวนี้ แล้วเปลี่ยนจังหวะเกมได้อย่างสวยงาม

3. คุมจังหวะเกมได้อย่างยอดเยี่ยม

การเป็นกองกลางระดับโลกไม่ใช่แค่ส่งบอลสวย ๆ หรือเลี้ยงบอลเก่ง แต่ต้องสามารถคุมจังหวะเกมได้ด้วย และนี่คือจุดที่มอดริชโดดเด่น เขารู้ว่าเมื่อไหร่ควรเร่งเกมให้เร็วขึ้น และเมื่อไหร่ควรผ่อนจังหวะเพื่อให้ทีมตั้งหลัก

ลองนึกถึง เรอัล มาดริด ในช่วงยุคทองของพวกเขา เวลาทีมต้องการตั้งเกมรุก มอดริชจะเป็นคนรับบอลจากกองหลัง และกำหนดทิศทางของเกม ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแกนสนาม หรือการกระจายบอลไปให้ปีกอย่างวินิซิอุสหรือโรดรีโก้ เขาทำให้เกมดูไหลลื่นแบบไม่มีสะดุด

4. คว้าแชมป์และสร้างประวัติศาสตร์มากมาย

ถ้าคุณจะเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดตลอดกาล คุณต้องมี เกียรติประวัติที่ยิ่งใหญ่ และมอดริชก็จัดเต็มในเรื่องนี้

แชมป์ระดับสโมสร (กับเรอัล มาดริด)

• ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 6 สมัย
• ลาลีกา 4 สมัย
• สแปนิชซูเปอร์คัพ 4 สมัย
• ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 4 สมัย
• โกปาเดลเรย์ 1 สมัย
• ฟีฟ่าคลับเวิลด์คัพ 4 สมัย

เกียรติยศระดับทีมชาติ (กับโครเอเชีย)

• รองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018
• อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2022

และที่พีคสุด… เขาเป็นมิดฟิลด์ที่ ทำลายยุคผูกขาดของ เมสซี และ โรนัลโด้ ด้วยการคว้า บัลลงดอร์ 2018 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่รางวัลนี้ไม่ได้ตกเป็นของสองซุปตาร์แห่งยุค

5. สภาพร่างการที่ฟิตเปรี๊ยะ แม้อายุเกือบ 40!

หลายคนอาจคิดว่าพออายุเกิน 30 นักเตะจะเริ่มโรยรา แต่ไม่ใช่กับมอดริช! เขาอายุเข้าใกล้ 40 ปีแล้ว แต่ยังคงเล่นในระดับสูงสุดได้อย่างสบาย ๆ ด้วยวินัยในการดูแลร่างกาย และความทุ่มเทในสนาม

หากสังเกตเกมของ เรอัล มาดริด หรือ ทีมชาติโครเอเชีย คุณจะเห็นว่าเขายังวิ่งพล่านไปทั่วสนาม คอยช่วยเกมรับ และยังสามารถเล่นเต็ม 90 นาทีแบบไม่มีหมดแรง นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เขายืนระยะได้นานกว่ากองกลางทั่วไป

เกียรติประวัติ ความสำเร็จต่าง ๆ ของ ลูกา มอดริช

ดินาโม ซาเกร็บ

• โครเอเชียนเฟิสต์ฟุตบอลลีก ได้แชมป์ 3 ครั้ง ในฤดูกาล 2005-06, 2006-07, 2007-08
• โครเอเชียนคัพ ได้แชมป์ 2 ครั้ง ในฤดูกาล 2006-07, 2007-08
• โครเอเชียนซูเปอร์คัพ ได้แชมป์ 1 ครั้ง ในฤดูกาล 2006

เรอัลมาดริด

• ลาลีกา สเปน ได้แชมป์ 4 ครั้ง ในฤดูกาล 2016-17, 2019-20, 2021-22, 2023-24
• โกปาเดลเรย์ ได้แชมป์ 1 ครั้ง ในฤดูกาล 2013-14
• สแปนิชซูเปอร์คัพ ได้แชมป์ 4 ครั้ง ในฤดูกาล 2012, 2017, 2019-20, 2021-22
• ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้แชมป์ 6 ครั้ง ในฤดูกาล 2013–14, 2015–16, 2016–17, 2017–18, 2021–22, 2023-2024
• ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ได้แชมป์ 4 ครั้ง ในฤดูกาล 2014, 2016, 2017, 2022
• ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ได้แชมป์ 4 ครั้ง ในฤดูกาล 2014, 2016, 2017, 2018

ทีมชาติโครเอเชีย

• ฟุตบอลโลก ได้รองแชมป์ 1 ครั้ง ในปี 2018 และ อันดับที่ 3 ในปี 2022

รางวัลส่วนตัว

• บัลลงดอร์ ในปี 2018

ลูก้า โมดริช Luka Modric ตำนานที่โลกฟุตบอลต้องจดจำ

ลูก้า โมดริช ไม่ใช่แค่นักเตะที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยม แต่เขาคือกองกลางระดับตำนานที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการฟุตบอล เขาพิสูจน์ให้เห็นว่า ขนาดตัวไม่ใช่ปัญหา เมื่อคุณมีสมองฟุตบอลที่เฉียบแหลมและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

จากเด็กชายที่เติบโตท่ามกลางสงครามในโครเอเชีย สู่การเป็น หัวใจของเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 5 สมัย คว้าบัลลงดอร์ในปี 2018 และพาทีมชาติโครเอเชียทะลุเข้าชิงฟุตบอลโลก เรื่องราวของเขาเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความมหัศจรรย์

แม้จะอายุเกือบ 40 ปี แต่ มอดริชยังคงเล่นในระดับสูงสุด แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอลของ เรอัล มาดริด, ทีมชาติโครเอเชีย หรือแค่รักในเกมฟุตบอล ชื่อของ ลูก้า โมดริช จะอยู่ในใจแฟนบอลตลอดไป

หากคุณเป็นคอลูกหนังที่ต้องการติดตามข่าวสารฟุตบอล ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก, โปรแกรมบอล หรือลุ้นผลการแข่งขันของ เรอัล มาดริด และทีมชาติโครเอเชีย คุณสามารถอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวได้ที่ ทางเข้า UFABET ซึ่งเป็นแหล่งรวมข้อมูลข่าวสาร และความสนุกเกี่ยวกับวงการลูกหนังระดับโลก!