อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) หรือที่แฟนบอลทั่วโลกรู้จักกันดีในชื่อ “เนรัซซูรี่” (Nerazzurri) หรือ งูใหญ่ (ภาษาไทย) คือหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอิตาลี และเป็นสโมสรที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยสีสันของเสื้อแข่งที่เป็นเอกลักษณ์ คือสีดำและสีฟ้า ทำให้อินเตอร์ มิลานเป็นที่จดจำของแฟนบอลทั่วโลก ในบทความนี้ Balluefa จะพาทุกท่านไปสำรวจประวัติศาสตร์อันยาวนานของอินเตอร์ มิลาน ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน รวมถึงทำความรู้จักกับโค้ชคนสำคัญของสโมสร และความสำเร็จที่น่าจดจำต่าง ๆ ที่อินเตอร์ มิลานเคยสร้างไว้
ประวัติ อินเตอร์ มิลาน จากจุดเริ่มต้นสู่ยักษ์ใหญ่แห่งกัลโช่ เซเรีย อา
อินเตอร์ มิลาน (Inter Milan) มีฉายาว่า “งูใหญ่” เป็นทีมฟุตบอลจากประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ที่เมืองมิลานในแคว้นลอมบาร์เดีย อินเตอร์ มิลานเป็นเพียงสโมสรเดียวที่ไม่เคยตกชั้นจากลีกสูงสุดอย่างเซเรียอา (ลีกสูงสุดของประเทศอิตาลี) นับตั้งแต่แข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ. 1909 สโมสรถือกำเนิดขึ้นจากการแตกหักกันของสโมสรคริกเกตมิลาน (ปัจจุบันคือเอซี มิลาน) โดยอินเตอร์ได้ก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1908

ยุคแรกเริ่มและความสำเร็จในช่วงแรก
ช่วงแรกของสโมสร อินเตอร์ มิลานประสบความสำเร็จอย่างมาก คว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในปี 1910 และยังคงเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของอิตาลีในช่วงหลายปีต่อมา อย่างไรก็ตาม สงครามโลกครั้งที่สองได้สร้างความเสียหายให้กับวงการฟุตบอลอิตาลี รวมถึงอินเตอร์ มิลานด้วย ทำให้สโมสรต้องหยุดชะงักไประยะหนึ่ง
หลังสงครามโลกครั้งที่สอง อินเตอร์ มิลานกลับมาผงาดอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษ 1960 ภายใต้การนำทีมของเฮเลนิโอ เอร์เรรา อินเตอร์ มิลานคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพได้ถึง 2 สมัยติดต่อกันในปี 1964 และ 1965 นอกจากนี้ยังคว้าแชมป์อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพได้อีก 2 สมัย นักเตะในยุคนั้นหลายคนกลายเป็นตำนานของสโมสร เช่น ซันติอาโก คาซาเซซ, ยูเวนติโน่ โลเซตติ, และจูเซปเป เมอัซซา
ยุคตกต่ำและการฟื้นตัว
หลังจากยุคทอง สโมสรต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผลงานในลีกไม่คงเส้นคงวา และการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารบ่อยครั้ง ทำให้แฟนบอลรู้สึกผิดหวัง อย่างไรก็ตาม อินเตอร์ มิลานก็สามารถกลับมาผงาดอีกครั้งในช่วงทศวรรษ 1980 ด้วยการคว้าแชมป์หลายรายการ
ช่วงที่มัสซิโม โมราตติ เข้ามาเป็นประธานสโมสร อินเตอร์ มิลานประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยคว้าแชมป์เซเรียอาได้หลายครั้ง และยังคว้าแชมป์ยูฟ่าคัพได้อีกด้วย แต่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในปี 2010 เมื่อภายใต้การนำทีมของโชเซ มูรีนโย อินเตอร์ มิลานคว้าทริปเปิลแชมป์ ด้วยการคว้าแชมป์เซเรียอา โคปปา อิตาเลีย และยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

โชเซ มูรีนโย ผู้ชายคนสำคัญที่พาอินเตอร์ มิลาน สู่ยุคทอง
โชเซ มูรีนโย (Jose Mourinho) หรือที่คนไทยเรียกกันว่า โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกสผู้นี้ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นเกมรับที่เหนียวแน่น และการวางแผนแท็คติกที่ชาญฉลาด ซึ่งทำให้เขาประสบความสำเร็จกับหลายสโมสรทั่วโลก หนึ่งในความสำเร็จที่โดดเด่นที่สุดของมูรินโญก็คือการพาทีม อินเตอร์ มิลานคว้าทริปเปิลแชมป์ในปี 2010
การมาถึงของ “เดอะ สเปเชียล วัน” ที่ อินเตอร์ มิลาน
มูรินโญ เข้ามาคุมทีม อินเตอร์ มิลาน ในปี 2008 แทนที่โรแบร์โต้ มันชินี ด้วยความคาดหวังที่จะพาทีมกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงกับเชลซี มูรินโญก็ได้รับความไว้วางใจจากบอร์ดบริหารของอินเตอร์ มิลานให้เข้ามาปฏิรูปทีม
ทริปเปิลแชมป์ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ฤดูกาล 2009-2010 เป็นฤดูกาลที่แฟนบอลอินเตอร์ มิลานจะไม่มีวันลืม เมื่อมูรินโญ พาทีมคว้าแชมป์ 3 รายการในฤดูกาลเดียว ได้แก่ เซเรีย อา, โคปปา อิตาเลีย และยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก การคว้าทริปเปิลแชมป์ในปีนั้นถือเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ของสโมสร และทำให้มูรินโญ กลายเป็นตำนานของอินเตอร์ มิลานไปโดยปริยาย
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูรินโญประสบความสำเร็จกับอินเตอร์ มิลาน
- การวางแผนแท็คติกที่ยอดเยี่ยม: มูรินโญ เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการวางแผนแท็คติกที่ชาญฉลาด เขาสามารถปรับเปลี่ยนแท็คติกให้เข้ากับคู่แข่งได้อย่างเหมาะสม
- การสร้างทีมที่มีระเบียบวินัย: มูรินโญ เน้นย้ำเรื่องวินัยและความสามัคคีในทีม ทำให้นักเตะทุกคนเล่นด้วยความมุ่งมั่นและทุ่มเท
- การดึงศักยภาพของนักเตะออกมา: มูรินโญ สามารถดึงศักยภาพของนักเตะในทีมออกมาได้อย่างเต็มที่ ทำให้นักเตะหลายคนเล่นได้อย่างยอดเยี่ยมภายใต้การคุมทีมของเขา
- การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเตะ: มูรินโญ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเตะในทีม ทำให้นักเตะทุกคนให้ความเคารพและเชื่อฟังเขา
โชเซ่ มูรินโญ Jose Mourinho เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของอินเตอร์ มิลาน การที่เขาพาทีมคว้าทริปเปิลแชมป์ในปี 2010 เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดของสโมสร และทำให้แฟนบอลอินเตอร์ มิลานทั่วโลกมีความสุขอย่างมาก แม้ว่ามูรินโญจะไม่ได้คุมทีมอินเตอร์ มิลานอีกต่อไปแล้ว แต่ชื่อของเขาก็ยังคงเป็นตำนานที่อยู่ในใจของแฟนบอลเสมอ

ซาน ซิโร (San Siro) รังเหย้าของ อินเตอร์ มิลาน Inter Milan
ซาน ซิโร หรือ สตาดีโอ จูเซ็ปเป เมอัซซา คือสนามกีฬาที่แฟนบอลทั่วโลกต่างรู้จักดี เพราะเป็นรังเหย้าของสองสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเมืองมิลานอย่าง อินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน สนามแห่งนี้มีความจุมากถึง 80,000 ที่นั่ง และเป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดและมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในยุโรป
- กำเนิด: สนามซานซิโรสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1926 ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและมีความจุมากถึง 80,000 ที่นั่ง ทำให้เป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปในขณะนั้น
- การตั้งชื่อ: เพื่อเป็นเกียรติแก่ จูเซ็ปเป เมอัซซา ตำนานนักฟุตบอลของอินเตอร์ มิลาน สนามแห่งนี้จึงถูกเปลี่ยนชื่อเป็น สตาดีโอ จูเซ็ปเป เมอัซซา
- ดาร์บี้เดลลามาดอนนินา: สนามซานซิโรเป็นเวทีของการแข่งขันดาร์บี้แมตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอิตาลี นั่นคือการพบกันระหว่างอินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน ซึ่งเป็นคู่แข่งขันที่เก่าแก่ที่สุดและดุเดือดที่สุดคู่หนึ่งของโลก
ความพิเศษที่เหนือกว่าของ ซาน ซิโร (San Siro)
- บรรยากาศ: บรรยากาศภายในสนามซานซิโรนั้นเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ โดยเฉพาะในเกมดาร์บี้แมตช์ เสียงเชียร์ของแฟนบอลทั้งสองฝ่ายจะดังกึกก้องไปทั่วสนาม ทำให้ผู้เล่นทุกคนรู้สึกถึงแรงกดดันและแรงกระตุ้นในการทำผลงานให้ดีที่สุด
- ประวัติศาสตร์: สนามซานซิโรเป็นพยานในการแข่งขันฟุตบอลระดับโลกมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลโลก หรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ที่นักฟุตบอลระดับตำนานมากมายได้สร้างชื่อเสียงและสร้างประวัติศาสตร์ไว้
- สัญลักษณ์ของเมืองมิลาน: สนามซานซิโรไม่เพียงแต่เป็นสนามกีฬา แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองมิลาน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมือง
ทำไมอินเตอร์ มิลาน และ เอซี มิลาน ถึงใช้สนามเดียวกัน?
เนื่องจากทั้งสองสโมสรมีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และเพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการ จึงตกลงที่จะใช้สนามซานซิโรร่วมกัน ซึ่งเป็นการลดค่าใช้จ่ายและยังสร้างความสะดวกสบายให้กับแฟนบอลทั้งสองทีม
เกียรติประวัติ ความสำเร็จต่าง ๆ ของ อินเตอร์ มิลาน
ระดับประเทศ
- กัลโช่ เซเรียอา ได้แชมป์ 20 ครั้ง ในฤดูกาล 1909–10, 1919–20, 1929–30, 1937–38, 1939–40, 1952–53, 1953–54, 1962–63, 1964–65, 1965–66, 1970–71, 1979–80, 1988–89, 2005–06, 2006–07, 2007–08, 2008–09, 2009–10, 2020–21, 2023–24
- โกปปาอิตาเลีย (อิตาลีคัพ) ได้แชมป์ 9 ครั้ง ในฤดูกาล 1938–39, 1977–78, 1981–82, 2004–05, 2005–06, 2009–10, 2010–11, 2021–22, 2022–23
- ซูแปร์โกปปาอีตาเลียนา (อิตาเลียนซูเปอร์คัพ) ได้แชมป์ 8 ครั้ง ในฤดูกาล 1989, 2005, 2006, 2008, 2010, 2021, 2022, 2023
ระดับทวีป
- ยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ได้แชมป์ 3 ครั้ง ในฤดูกาล 1963-64, 1964-65, 2009-10
- ยูฟ่าคัพ/ยูฟ่ายูโรป้าลีก ได้แชมป์ 3 ครั้ง ในฤดูกาล 1990-91, 1993-94, 1997-98
ระดับโลก
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปและอเมริกาใต้ (อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ) ได้แชมป์ 2 ครั้ง ในฤดูกาล 1964, 1965
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก ได้แชมป์ 1 ครั้ง ในฤดูกาล 2010
เว็บบอลออนไลน์ Balluefa ครบจบทุกเรื่องเกี่ยวกับฟุตบอล
Balluefa เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นข่าวสารฟุตบอลล่าสุด ข้อมูลนักเตะชื่อดังระดับโลก สโมสรชั้นนำ ผู้จัดการทีมสมองเพชร และอื่น ๆ อีกมากมายที่น่าสนใจ คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างสะดวกสบายผ่านหน้าเว็บไซต์เพียงหน้าเดียว หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอล การมี Balluefa เป็นเพื่อนคู่คิดในการติดตามข่าวสารของวงการลูกหนัง ก็จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับโลกของฟุตบอลได้มากยิ่งขึ้น